บรัสเซลส์
(อังกฤษ: Brussels), บรูว์แซล (ฝรั่งเศส: Bruxelles) หรือ บรึสเซิล (ดัตช์: Brussel; เยอรมัน: Brüssel) เรียกอย่างเป็นทางการว่า
เขตเมืองหลวงบรัสเซลส์ หรือ เขตบรัสเซลส์ เป็นเมืองหลวงของประเทศเบลเยียม
และเป็นศูนย์กลางหรือเมืองหลวงอย่างไม่เป็นทางการของสหภาพยุโรป (อียู)
บรัสเซลส์มีประชากรประมาณ
140,000 คน
แต่เขตเมืองหลวงบรัสเซลส์นั้นมีประชากรรวมประมาณเกือบ 2 ล้านคน
เบลเยียมเป็นประเทศที่มีการแบ่งเขตของประชากรที่พูดภาษาดัตช์
(ทางเหนือ) และภาษาฝรั่งเศส (ทางใต้) โดยมีเส้นแบ่งเขตที่ชัดเจน
บรัสเซลส์นั้นอยู่ในเขตของดัตช์ แต่ภาษาอย่างเป็นทางการนั้นใช้ทั้งสองภาษา
โดยส่วนใหญ่เป็นภาษาฝรั่งเศส
บรัสเซลส์เป็นที่ตั้งขององค์กรระหว่างประเทศที่สำคัญหลายแห่ง
หน่วยงานสำคัญของสหภาพยุโรป 2 หน่วยงาน
คือ คณะกรรมาธิการยุโรป (European Commission) และคณะมนตรีแห่งสหภาพยุโรป (Council of the European Union) ที่มีสำนักงานใหญ่ในกรุงบรัสเซลส์
นอกจากนี้บรัสเซลส์ยังเป็นที่ตั้งของนาโต (NATO) อีกด้วย ทำให้หลายประเทศมีสถานทูตในบรัสเซลส์ถึง 3 แห่ง คือ สถานทูตปกติของแต่ละประเทศ
สถานทูตประจำสหภาพยุโรป และสถานทูตประจำนาโต(ขอบคุณที่มาจาก https://th.wikipedia.org)
มาเริ่มต้นเดินทางกันเลย ตั๋วพร้อม เดินทางโดยรถไฟ ข้อดีคือวันอาทิตย์ตั๋วลด 50% เลยจัดซะหน่อย
วันนี้เร่งรีบกลัวไม่ทันรถไฟ วิ่งมาแบบหัวยุ่งเหยิงกันเลยทีเดียว 55😁😁จากนั้นก็มาลงที่สถานี Brussels Centraal
อีกฝั่งด้านหน้าของทางออกสถานีรถไฟเป็นโรงแรมHilton
ว่าแล้วก็ไปทัวร์ตลาดกัยเลยดีกว่า วันนี้โชคดีอากาศดีมาก ฝนไม่ตก
เดินชมอาคาร สถาปัตยกรรม ของเมืองมาเรื่อยๆ
แล้วก็เินเข้ามาในอาคาร เห็นคนเดินเข้ามาเยอะแยะ แวะดูซะหน่อย ออ เป็นแหล่งช็ปปิ้ง นั่นเอง
ประดับไฟไว้สวยงาม
แล้วก็เดินออกมาด้านนอก แต่ละอาคารประดับประดากันอย่างสวยงาม
มีโชว์ต่างๆ ให้เห็นมากมาย
เดินออกมาอีกฝั่ง
ฝั่งนี้เป็นลานสเก็ตน้ำแข็ง ของชอบของเด็กๆจริงๆ
มาถึง สิ่งก่อสร้างสวยงามกลางกรุงบรัสเซลส์
ต้นทางที่จะเดินไปชมจตุรัสกลางเมือง
มองเห็นคิวยาวๆ ควันโขมง คิวไส้กรอกขึ้นชื่อนั่นเอง
ว่าแล้วก็จัดซะ ชิ้นยาวๆไปเลย
แล้วก็เดินต่อ
ส่วนมุมนี้เป็นแหล่งร้านค้า ของต่างๆจาก ชาวตูนิเซีย ทั้งแถบ
ทหารเดินกันให้ขวั้ก
แล้วก็เดินต่อจากจุดนี้
นั่นงัยแอบอยู่ตรงหัวมุมถนนนั่นเอง
แมนเนเกน พิส (ดัตช์: Manneken Pis; แปลว่า เด็กชายกำลังปัสสาวะ บางครั้งเรียกเป็นภาษาฝรั่งเศสว่า le Petit Julien แปลว่า จูเลียนน้อย) เป็นน้ำพุขนาดเล็กหล่อด้วยทองแดงเป็นรูปเด็กชายยืนเปลือยกายกำลังปัสสาวะใส่อ่าง มีความสูงประมาณ 61 ซ.ม. ตั้งอยู่บริเวณทางแยกระหว่างถนน Rue de l'Étuve/Stoofstraat และ Rue du Chêne/Eikstraat ใจกลางกรุงบรัสเซลส์ รูปหล่อปัจจุบันออกแบบโดยเจอโรม ดูเกสนอย ช่างหล่อชาวฝรั่งเศส-ฟลามส์ ถูกนำมาติดตั้งราวปี ค.ศ. 1618 เป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญแห่งหนึ่งของประเทศเบลเยียม
มีตำนานเล่าว่า รูปปั้นนี้เดิมสร้างขึ้นในศตวรรษที่ 14 ด้วยหินแกะสลัก ในขณะนั้นบรัสเซลส์อยู่ท่ามกลางสงคราม และถูกฝ่ายตรงข้ามนำระเบิดมาวางไว้ที่กำแพงเมือง เด็กชายคนหนึ่งชื่อ จูเลียนสกี (Julianske) มาพบสายชนวนระเบิดกำลังติดไฟ จึงปัสสาวะรดเพื่อดับชนวนและป้องกันเมืองไว้ได้ ชาวเมืองจึงทำรูปแกะสลักนี้ไว้เพื่อระลึกถึงความกล้าหาญ ต่อมารูปสลักนี้ถูกขโมยสูญหายไปหลายครั้ง จึงถูกแทนที่รูปหล่อตัวปัจจุบัน ที่ออกแบบโดยเจอโรม ดูเกสนอย ในปี ค.ศ. 1618
ในปัจจุบัน เทศบาลเมืองบรัสเซลส์ได้จัดเทศกาลเฉลิมฉลองต่างๆ บางช่วงจะมีการจัดเครื่องแต่งกายพื้นเมืองต่างๆ สวมให้กับรูปปั้นนี้ โดยในช่วงเวลาปกติรูปปั้นนี้จะอยู่ในสภาพเปลือยกาย (ขอบคุณที่มาจาก https://th.wikipedia.org)
และก็เต็มไปด้วยร้านขายของที่ระลึก
เดินต่อจาก แมนเนเกน พิส ตรงมาเรื่อยๆ ก็จะถึง
จัตุรัสแกรนด์เพลส หรือ กรองด์ ปลาซ (Grand Place หรือ Grote Markt) เป็นจตุรัสที่สวยงามที่สุดในยุโรป เป็นกลุ่มอาคารที่สร้างด้วยสถาปัตยกรรมทั้งบาโร้ค โกธิค นีโอ-โกธิค และเป็นสถานที่ซึ่งยูเนสโก้ ยกย่องให้เป็นมรดกโลกตั้งแต่ปี ค.ศ.1983
ใน
ค.ศ.1995 อาคารในจัตุรัส กรองด์ ปลาซ ถูกทหารฝรั่งเศสยิงระเบิดเข้าทำลาย
แก้แค้นที่ฝรั่งเศสเคยแพ้สงครามในเบลเยี่ยมตอนใต้
แต่ทุกคนก็ร่วมแรงร่วมใจช่วยกันบูรณะอาคารกระทั่งกลับมาดูดีอย่างเดิม
หลังจากนั้นมีการซ่อมแซมอีกหลายครั้ง จนดูสวยงามดังที่เห็นในปัจจุบัน
ศาลากลาง
(โอแต็ล เดอ วิล)
แล้วเดินออกมาจาก จัตุรัสแกรนด์เพลส
มาถึงย่านร้านอาหาร เต็มไปหมด เดินเข้าไปหน้าร้านทุกร้านจะมีพนักงานยืนเรียกลูกค้า นำเสนอเมนูต่างๆเต็มไปหมด กว่าจะเลือกได้ เวียนหัวกันเลยทีเดียว
เอาง่ายๆเลยละกัน ร้านนี่แหละ
สั่งแบบ เบสิค ขอแค่กันหิวก็พอ ก่อนกลับบ้าน
มากินกัน
อิ่มแปล้แล้วก็กลับบ้านกัน
..... 😋😋 .....
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น